Carrieverse ร่วมเป็นพันธมิตรกับ Polygon เพื่อเสริม Metaverse
พร้อมชูเป้าหมายลดการปล่อยคาร์บอน
วันนี้ บริษัทแพลตฟอร์มเมตาเวิร์ส Carrieverse (ซีอีโอ เดวิด ยุน) ได้ประกาศความร่วมมือกับ Polygon แพลตฟอร์ม Web3 Ethereum ขนาดใหญ่ที่มีผู้ใช้งานหลายล้านคน เพื่อสร้างและทำตลาดในเมตาเวิร์สของ Carrieverse บนเครือข่ายของ Polygon ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต
Carrieverse เป็นการร่วมมือกันระหว่างบริษัท Mantisco ซึ่งเป็นผู้จัดจำหน่ายเกม Hunters Arena: Legend ที่มียอดดาวน์โหลดกว่า 12 ล้านครั้งทั่วโลก และ CarrieSoft ผู้พัฒนาของแพลตฟอร์มเมตาเวิร์ส Carrie and Friends ที่อ้างอิงมาจากรายการเกาหลีที่ผู้คนกว่า 500 ล้านคนทั่วโลกชื่นชอบ
"Carrieverse" ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเหล่าวัยรุ่น Generation Z และ Alpha โดยมีการเผยแพร่คอนเทนต์จากโลกแห่งความจริงไม่ว่าจะเป็นเกม, การศึกษา และบริการค้าขายต่างๆ ผู้ใช้งานจะสามารถสร้างโลกของตัวเองและ NFT ไปพร้อมๆ กับความสนุกที่ได้เพลิดเพลินจากประสบการณ์ดิจิทัลสุดสร้างสรรค์และเป็นเจ้าของคอนเทนต์ด้วยตัวเอง นอกจากนั้นแล้ว Carrieverse กำลังความต้องการที่จะเปิดให้บริการเกมแนววางแผนรูปแบบ P2E อย่าง "SuperKola" เช่นเดียวกับการจัดทำ NFT พิเศษเป็นจำนวนจำกัดร่วมกับ คิม โบ ทง ผู้สร้างซีรีส์ดัง D.P. หน่วยล่าทหารหนีทัพ ทาง Netflix
เออร์วิต โกล์ หัวหน้าฝ่ายบริหารธุรกิจเกมของ Polygon เปิดเผยว่า "Carrieverse ถือเป็นประสบการณ์เมตาเวิร์สครบวงจรที่ครอบคลุมทั้งด้านวิดีโอเกม, การพาณิชย์, NFT และยังเปิดตัวมาพร้อมกับการนำแบรนด์ Carrie and Friends มาร่วมนำเสนอ พวกเรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้มีส่วนร่วมในการขยับขยาย Carrieverse ด้วยการสนับสนุนอุปกรณ์บล็อกเชนที่มีค่าใช้จ่ายที่ถูกลงและปล่อยคาร์บอนในปริมาณปานกลาง เพื่อช่วยให้โปรเจ็กต์นี้สำเร็จได้ดังใจหวัง"
Polygon ได้รับการออกแบบเพื่อทำงานร่วมกับ Ethereum โดยลดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับเครือข่ายและเร่งระยะเวลาการทำรายการโดยไม่ส่งผลกระทบร้ายแรงด้านความปลอดภัย และเนื่องจากเป็นเครือข่ายที่เป็นกลางทางคาร์บอน ทำให้ Polygon มั่นใจได้ว่าทุกการทำรายการที่เกิดคาร์บอนฟุตปรินต์จะมีการดูดซับทางธรรมชาติที่เท่าเทียมกันทั้งหมด และแพลตฟอร์มนี้ยังมีความตั้งใจที่จะให้เป็นรูปแบบคาร์บอนเนกาทีฟภายในสิ้นปี เช่นเดียวกับการลงทุน 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อโครงการที่ส่งเสริมสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
Carrieverse ที่มีการเปิดให้บริการบนเครือข่ายของ Polygon จะมีความเป็นกลางทางคาร์บอนตั้งแต่เริ่มต้น และจะให้ความสำคัญด้านความปลอดภัยทางเครือข่าย, การลดค่าใช้จ่าย และสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
"จากการประเมินเทคโนโลยี Carrieverse และอีโคซิสเต็มของระบบเศรษฐกิจบนเมตาเวิร์สนี้ พวกเราสามารถสร้างแพลตฟอร์ม Web3 และแอปพลิเคชันต่างๆ ที่ได้รับความร่วมือจาก Polygon" คุณเดวิด ยุน ซีอีโอของ Carrieverse ระบุ "เราจะพยายามประยุกต์เมตาเวิร์ส Web3 ให้กลายเป็นเมตาเวิร์สที่ Carrieverse ตั้งปณิธานไว้ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และระบบอีโคซิสเต็มของ Polygon ที่ยั่งยืน"
Carrieverse มีกำหนดการเปิดให้บริการทั่วโลกภายในไตรมาสแรกของปี 2023 สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนของผู้ใช้งาน และการเป็นเจ้าของ NFT จะมีการเปิดเผยอีกครั้งก่อนการให้บริการ
