รีวิว : Review MSI GF63 THIN Gaming notebook มาพร้อม Core i5 Gen 11 Ram 8GB SSD 512GB ในราคาที่เป็นมิตร
สวัสดีครับกลับมาพบกับการรีวิวอีกครั้ง มาพบกับ โน้ตบุ๊คเกมมิ่ง สุดคุ้มค่าจากทาง MSI กับ MSI GF63 THIN รหัส MSI GF63 THIN 11SC-674TH ราคาปัจจุบัน ณ วันที่ทดสอบรีวิวเพียง 23900 บาทเท่านั้น ได้สเปค i5-11400H , RAM 8 GB , SSD 512GB NVMe PCI-E GEN3 ตอบโจทย์วัยรุ่น วัยเรียน ที่อยากมีคอมไว้เรียนไว้ทำงานตอนเช้า ๆ กลับบ้านดึก ๆ มา ก็เอาเปิดเครื่อง เล่นเกมกับเพื่อนๆ เน้นสเปคแนว เกมออนไลน์สนุก ๆ สเปคปานกลาง ไม่เกมแนว AAA ขนาดกะทัดรัด พกพาง่าย เดี๋ยวผมจะมารีวิวด้วยความรู้สึกของผมที่เคยสัมผัสรุ่นก่อนหน้านี้เช่นเคย ติดตามชมกันเลยครับผม
Bundle
เมื่อซื้อเครื่องจะถูกห่อด้วยกล่องชั้นนอกก่อน 1 ชั้น แล้วภายในถึงจะมีกล่องใส่ตัวเครื่องและกระเป๋าเป้ครับ และเมื่อแกะตัวกล่องใส่ตัวเครื่องเราจะพบ ตัวเครื่อง,สายชาร์จแบบ DC120W พร้อมปลั๊กไฟแบบสามตาครับผม
Design
ออกแบบเน้นการใช้อลูมิเนียมสีดำด้าน แต่สะท้อนแสงไปมาเผื่อให้เกิดมิติเวลาที่มองมาที่ตัวเครื่อง เครื่องจึงโดดเด่น แม้ไม่มีไฟ RGB มาช่วยให้เกิดความสวยงามก็ตาม และยังคงมีโลโก้ Dragon Shield สัญลักษณ์มังกรประจำอยู่บริเวณฝาหลังของตัวเครื่องสกรีนไว้ เป็น Signature ของ MSI ครับผม
ในส่วนของการระบายความร้อนนั้นได้จัดเตรียมชุดระบายความร้อน Cooler Boost เจาะรูระบายอากาศ เยอะพอสมควรยังช่วยให้มีการไหลเวียนของอากาศได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงมีการใส่รายละเอียดลงไปในการออกแบบแนวเฉียงอีกด้วย แกะทำความสะอาดได้อย่างง่ายดายครับ
คีย์บอร์ดเป็นจะมีการย่อสเกลลงมาเผื่อให้ตัวเครื่องมีขนาดที่กะทัดรัดลง ไม่มี Numpad แต่มีปุ่มคำสั่งและคีย์ลัดครบทุกปุ่มไม่มีขาดหาย มีไฟ LED สีแดงปรับได้ 3 ระดับ ส่วนเรื่องการพิมพ์และการกด ได้ทดสอบทั้งการพิมพ์และการเล่นเกมที่ต้องมีการกดจังหวะบ่อย ๆ ผมถือว่าค่อนข้างแม่นยำระยะปุ่มไม่ยวบไม่ลึกเกินไปครับ
ส่วนทัชแพดสำหรับผมที่ครอบครองเครื่อง MSI ในรุ่นก่อนหน้านี้ก็ยังรักษารูปแบบไว้เหมือนเดิมครับแผ่นใหญ่ไถง่าย
(แต่ใครที่ย้ายมาจากแบรนด์อื่น ๆ อาจยังไม่ลื่นปรุ๊ดปร้าดนะครับเช่นการ สกอร์เมาส์เลื่อนหน้าจอเว็บไซต์ขึ้น ๆ ลง ๆ คำแนะนำจากผมคือพกเมาส์ไร้สายสักตัวครับ ไว้เสียบใช้งาน)
Port Connector
เริ่มที่ด้านซ้ายเมื่อเราใช้งานตัวเครื่องจะมีพอร์ต ชาร์จไฟเครื่อง USB 3.1 Type A จำนวน 1 ช่อง และ ช่องชาร์จไฟ DC ครับ พร้อมไฟแสดงสถานการณ์ชาร์จไฟครับ และช่องระบายความร้อนครับ
ด้านขวาจะมี LAN RJ45 แบบ 1 Gbps จำนวน 1 ช่อง , USB 3.2 Type A จำนวน 2 ช่อง USB 3.2 Type C จำนวน 1 ช่อง และช่องหูฟัง 3.5 มม (แบบแยกไมค์โครโฟนและหูฟัง แยกมา 1 ช่องครับ)
ด้านหลังเป็นที่ระบายความร้อนและช่องต่อ HDMI ครับผม
Display
หน้าจอ มาในขนาด 15.6 นิ้ว พาแนลชนิด IPS LCD ความละเอียด FHD 1920×1080 พิกเซล 45%NTSC ค่า Refresh Rate 60 Hz ขอบหน้าจอแบบ THIN-BEZEL ทำให้ขอบด้านข้างมีพื้นที่น้อยมาก ด้านบนขอบจอจะมีกล้อง WEBCAM HD type (30fps@720p) พร้อมไมค์สองตัว
ส่วนหน้าจอสามารถกางได้ระดับ 45 องศาเลยครับผม
การอัพเกรดเครื่อง
การอัพเกรดเครื่อง สามารถอัพเกรดแรมได้สูงสุดถึง 32GB เลยครับโดยที่แรมเดิมจะให้มาเพียง 8GB
ส่วน SSD ของเดิมจะได้เป็น NVMe PCI-E GEN3 ซึ่งสามารถนำมาเปลี่ยนได้เลยครับ และสามารถใส่ Hard Disk และ SSD แบบ 2.5” ได้อีก 1 ช่องด้วยครับผม
Specification
- CPU : Intel Core i5-11400H
- GPU : NVIDIA GeForce GTX 1650 (4GB GDDR6)
- RAM : 8GB DDR4 BUS 3200 MHz
- STORAGE : SSD M.2 NVMe PCIe 512GB
- หน้าจอ : ขนาด 15.6” Full HD (1920×1080) Refresh Rate 60 Hz
- OS : Windows 10 Home
- WEBCAM : HD type (30fps@720p)
- WIFI : 802.11 ax Wi-Fi 6 + Bluetooth v5.2
- LAN RJ45 : 1 Gigabit Port
- แบตเตอรี่ : 53.5(Whr)
- ราคา 23,990 บาท รับประกันตัวเครื่อง 2 ปีเต็ม
Testing
การทดสอบแรกกับการรับสัญญาณ WIFI รองรับมาตฐาน 802.11 ax Wi-Fi 6 ทำให้สปีดที่ได้เมื่อใช้คู่กับ Router Access Point ที่รอบรับ Wi-Fi 6 สปีดการรับส่งทำได้ไม่ต่างจากการเสียบสายแลนเลยครับ (โดยแพคเกจอินเตอร์เน็ตทดสอบครั้งนี้คือ 1000/500 Mbps )
เรื่องเสียงยังเลือกใช้ Nahimic ทำให้การขับเสียงเวลาเล่นเกม หรือดูหนังฟังเพลงทำได้อย่างยอดเยี่ยมอีกด้วยผมถือว่ายังรักษาคุณภาพเสียงไว้ไม่ตัดทอนไปครับ มีโปรแกรมปรับค่าเสียงได้อีกด้วย เป็นโปรแกรมและไดร์เวอร์เสียงให้กับ Notebook ของทาง MSI อยู่แล้วครับผม
ส่วนถัดไปเรื่องของความเร็ว SSD ที่ให้มาถึงจะได้เป็นแบบ SSD M.2 NVMe PCIe 512GB จาก Kingston สปีดอ่านเขียนถือว่าน่าพอใจครับ
(ในส่วนนี้หากมีความต้องการที่จะอัพเกรด เพื่อเพิ่มเนื้อที่ในตัวเครื่อง และความรวดเร็วในการถ่ายโอนข้อมูล สามารถอัพเกรดเป็น SSD M.2 NVMe GEN 4 จะได้ความเร็วที่เรียกได้ว่าสุดจัดปลักบอกเลยครับผม)
ต่อด้วย โปรแกรม Benchmark ด้านกราฟฟิคอย่าง 3D Mark ที่ภาพรวมของเสปคนี้จะได้ CPU Intel Core i5-11400H และการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1650 (4GB GDDR6) มาดึงประสิทธิภาพทำให้ยังสามารถรักษาคะแนนไม่ต่างจากรุ่นที่ผมมีซึ่งเน้นทางด้านกราฟฟิคของเครื่องเลยครับ
(ในส่วนนี้สามารถ อัพเกรดแรมที่ให้มาจากเดิม 8GB DDR4 BUS 3200 MHz ก็ทำการใส่ให้ครบอีก 1 ตัวในรุ่นรหัสเดียวกันเป็น 16 GB ทำได้การใช้งานและผลคะแนนดีขึ้นได้ครับผม )
ปิดการด้วย Cinebench ทดสอบภาค CPU ล้วนๆ ถือว่าปั่นคะแนนได้ดีแม้เป็นเครื่องรุ่นเล็กครับผม
กลับสู่ช่วงลองเล่นเกมครับ
พาเล่นเกม PUBG ไปลุยกันเลยครับกับเสปค ดังนี้ครับ วัดความเหนียวกันหลังทรมาร Benchmark กันไปแล้ว
ต่อด้วยเกม Need for speed HEAT กันบ้างครับ ด้วยเครื่องรุ่นนี้อาจต้องปรับลดกราฟฟิคลงครับ ผลลัพธ์ได้ประมาณนี้ครับผม
ใครที่จะไลฟ์สตีมไปด้วยเล่นไปด้วย อาจเพิ่มแรม เป็น 16 GB ทำได้การเล่นและสตีมนั้นดีขึ้นได้ครับผม
After Upgrade RAM 16 GB
ผมได้แถม การทดสอบพิเศษนั้นคือ หากเราอัพเกรดแรมเป็น 16 GB จะทำให้การใช้งานได้ดีขึ้นหรือไป ผมได้ทดสอบมาแล้วดังนี้ครับไปชมกันเลย
จากภาพเมื่อสักครู่ เห็นแล้วว่าคะแนนด้านกราฟฟิคนั้นทำออกมาได้ดีขึ้นบ้างครับ มาต่อกันด้วยการทดสอบเกมกันบ้างครับ ไปชมกันเลย
MSI Center
ผมขอแนะนำโปรแกรมประจำโน้ตบุ๊ค MSI สำหรับการปรับตั้งค่าต่างๆ อาทิ รอบพัดลม ระดับแสงไฟ ดูค่าสถานะเครื่อง และการ Backup การโคลนนิ่งเตรียมข้อมูลไปสู่ SSD ตัวใหม่ สามารถมาจัดการได้ผ่านโปรแกรมนี้เลยครับผม
สรุปส่งท้าย
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับ โน๊ตบุ๊คสเปคคุ้มค่าอีกรุ่นของทาง MSI ที่ใส่เสปคมาผมถือว่าเป็นรุ่นที่คุ้มค่าตอบโจทย์น้องๆ เด็กๆวัยเรียน ที่อยากมีคอมพิวเตอร์ทั้งเรียนละเล่นไปพร้อมๆกันๆ เพราะพกพาสะดวก และยังคงเอกลักษณ์ MSI Gaming ไว้ไม่ขาดหาย ความร้อนแทบไม่สะสมเลยครับ ระบายออกไวมากๆ หากมีงบประมาณเล็กๆน้อยๆ แนะนำให้อัพเกรดแรมสักนิดเป็น 16GB ครับเพราะช่วยเรื่องการทำงานจริงๆ ไม่แพ้การอัพเกรด SSD ครับผม
โมเดลที่รีวิวนี้วางจำหน่ายในราคา 23,990 บาท รับประกันตัวเครื่อง 2 ปีเต็มกับทาง SVOA ครับผม หาซื้อได้ตามร้านคอมพิวเตอร์ชั้นนำทั่วประเทศไทย สนใจคลิกเลยครับ
ชื่นชอบการรีวิวก็ฝากติดตามกันด้วยนะครับสำหรับไปแล้วครับ สวัสดีครับ
