รีวิว : Review realme GT2 Pro สมาร์ตโฟนเรือธงดีไซน์ล้ำ วัสดุไบโอโพลิเมอร์ครั้งแรกของโลก

รีวิว : Review realme GT2 Pro สมาร์ตโฟนเรือธงดีไซน์ล้ำ วัสดุไบโอโพลิเมอร์ครั้งแรกของโลก

กราบสวัสดีครับ รอบนี้ขอมารีวิวโทรศัพท์มือถือบ้าง ถือว่าเป็นคอนเทนต์ CR Review ที่ตั้งใจทำและเฝ้ารอการเปิดตัวของรุ่นนี้เป็นอย่างมากกับ “realme gt2 pro” สุดยอดมือถือเรือธง ที่ใส่เสปคสุดแรง อย่าง snapdragon 8 gen 1 พร้อมการออกแบบที่ใช้วัสดุ “Bio Polymer พลาสติกชีวภาพ” และเป็น อีกครั้งที่ อาจารย์ Naoto Fukasawa มาร่วมออกแบบโทรศัพท์รุ่นนี้ด้วย เรียกได้ว่าเป็นมือถือที่ เรื่องราวเยอะมากๆครับ ทั้งด้านเสปค การออกแบบ วันนี้จะขอ รีวิวสี “Paper White” ที่เป็นสีเดียวที่มาวางจำหน่ายในประเทศไทยครับ จะเป็นอย่างไรไปชมกันเลย

Bundle


เปิดมาก็พบกับ 

  • ตัวเครื่องพร้อมติดฟิล์มหน้าจอเรียบร้อย
  • เคส TPU แถมสีเทา
  • สายชาร์จ USB Type A to Type C จำนวน 1 เส้น
  • ปิดท้ายด้วยหัวชาร์จ USB Type A to Type C แบบ Draft Charge 65W สุดแรง 
  • คู่มือการใช้งาน

Intro Design

การออกแบบของรุ่นนี้ จากที่กล่าวมาข้างต้นนะครับว่าได้ อาจารย์ Naoto Fukasawa มาร่วมออกแบบโทรศัพท์รุ่นนี้ด้วย ซึ่งถือว่าออกแบบได้อย่างล้ำสมัย ส่วนวัสดุที่เลือกใช้ อาทิ กล่องก็เป็นกระดาษรีไซเคิล หมึกพิมพ์เป็น Soy ink ฝาหลังของรุ่นนี้ที่เป็น Bio Polymer ก็ได้ SABIC ซึ่งเป็นบริษัท ผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ ของซาอุดิอาระเบีย (เป็นบริษัท มหาชนที่ใหญ่เป็นอันดับสองในตะวันออกกลางและซาอุดิอาระเบีย) มาร่วมพัฒนาครับ


ซึ่งทาง realme ได้บอกว่า “ทุกๆการผลิต realme GT 2 Pro ครบ 1 ล้านเครื่องใช้พลาสติกในกระบวนการผลิตลดลงเทียบเท่ากับขวดน้ำพลาสติก 3.5 ล้านใบ” เรียกได้ว่าแรงอย่างเดียวไม่พอ คอนเซปต์รักษ์โลก ก็มีให้เห็นด้วยนะครับเนี่ย

Front Body

ส่วนหน้าเครื่อง มาเริ่มกันที่จอ


  • หน้าจอแบบ Super Reality Display จาก realme เป็นจอแสดงผลแบบ AMOLED จอแบนราบไม่โค้ง ติดฟิล์มง่าย มาพร้อมความละเอียด 2K พร้อมเทคโนโลยี LTPO ครั้งแรกในโลก โดยหน้าจอ สามารถ ปรับอัตราการรีเฟรชหน้าจอแบบแปรผันตั้งแต่ 1 Hz – 120 Hz ให้สมรรถนะการแสดงผลที่น่าทึ่ง และช่วยลดการใช้พลังงานลง 50% ระดับคะแนน A+ จาก DisplayMate รับประกันคุณภาพของภาพที่โดดเด่น
  • รองรับสแกนนิ้วบนหน้าจอ (UD)
  • มีลำโพงเล็กๆบริเวณขอบจอ

Back Body






  • ฝาหลังของสี “Paper White” ก็ได้ SABIC ซึ่งเป็นบริษัท ผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ ของซาอุดิอาระเบีย มาร่วมออกแบบพัฒนาจากการสัมผัสครั้งแรกนั้นก็พบถึงความสากและความรู้สึกที่คลายกระดาษเลยครับ ไม่ธรรมดาจริงๆ ตอนแรกที่รับเครื่องมา ก็กลัวเหมือนกันนะว่าความผิวด้านแบบนี้จะทำให้ฝุ่นและคราบสกปรกนั้นเกิดขึ้นหรือไม่ จากการใช้งานครบ 1 อาทิตย์ถือว่า สอบผ่านครับ ใครจับมือถือไม่ใส่เคสโทรศัพท์ก็ไม่ต้องกังวลไปนะครับในเรื่องของคราบฝุ่นหากเกาะฝังไปในตัวเครื่อง ส่วนจะมีความเหลืองซีดจากการใช้งานระยะยาวไหม อาจจะต้องดูกันไปครับผม
  • ผ่าหากผ่าใส้ในก็จะพบแบตเตอร์รี่ 5000 mAh ความอึดนั้นเดี๋ยวไปดูในบทถัดไปกันนะครับผม
  • ผมแถมการใส่เคสให้ด้วยนะครับ เบื้องต้นก็จะใส่แล้วก็จะประมาณนี้เลยครับ

Rear Body

ขอบข้างๆ ของรุ่นนี้เขาจะเป็น อลูมิเนียมโลหะแข็งแรงทนทานครับ

  • ปุ่ม เพิ่ม-ลดเสียง จะอยู่ฝั่งซ้ายของตัวเครื่อง (เมื่อเราจับใช้งาน)
  • ปุ่ม ล็อกหน้าจอ จะอยู่ฝั่งขวาของตัวเครื่อง (เมื่อเราจับใช้งาน)
  • ลำโพงเสียง ซึ่งรอบรับแบบ Dolby Atmos เวลาชมวีดีโอหรือฟังเพลง จะทำงานคู่กับลำโพงบริเวณขอบจอครับ
  • พอร์ตการเชื่อมต่อแบบ USB Type-C 2.0 อยู่ใต้ล่างเครื่อง (ไม่รอบรับการต่อ Type C to HDMI สำหรับการ Presentation นะครับ)
  • ถาดใส่ซิมจะเป็นแบบ ใส่ nano sim ได้ 2 ช่องเท่านั้นครับ (ไม่สามารถใส่ Micro SD Card ได้นะครับ)

สรุปสเปคมือถือของรุ่นนี้

  • หน้าจอ AMOLED E5 ขนาด 6.7 นิ้ว (ความละเอียด WQHD+), รองรับการแสดงผล 120Hz HDR10+ สแกนนิ้วบนหน้าจอ
  • ความจุ 256GB UFS 3.1 (สำหรับสเปควางจำหน่ายในประเทศไทย จะมีความจุเดียว)
  • ชิพประมวลผล Snapdragon 8 Gen 1 + แรม 12GB LPDDR5 (เสปคสำหรับประเทศไทย)
  • ระบบ Android 12 (realmeUI 3.0)
  • กล้องหลัก 50MP F1.8 OIS PDAF (Sony IMX766) + Ultra-Wide 50MP (JN1) + Micoscope 3MP
  • กล้องหน้า 32MP
  • ลำโพงสเตอริโอคู่ รองรับ Dolby Atmos
  • รองรับ WiFi 6E + NFC + BT5.2
  • แบตเตอรี่ 5000 mAh (ชาร์จเร็ว 65W)




Front Camera



กล้องหน้าให้มาถึง 32 ล้านพิคเซล วางไว้บริเวณมุมซ้ายบนของตัวเครื่อง ข้อสังเกตุคือเวลา เชลฟ์ฟี่จะยากเพราะมุมกล้องหลบซ้ายบน อาจต้องฝึกการถ่ายภาพเล็กน้อยครับผม

Back Camera (introduce)

  • (เลนส์หลัก) 50 ล้านพิคเซล F1.8 OIS PDAF | ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX766  ระยะเลนส์เทียบเท่า 24mm
  • (เลนส์อัลตร้าไวด์) 50 ล้านพิคเซล F2.2 PDAF | ใช้เซ็นเซอร์ ISOCELL JN1  ระยะเลนส์เทียบเท่า 15mm
  • Microscope 3 ล้านพิคเซล

ภาพรวมก่อนไปชมภาพตัวอย่าง ผมถือว่าตัวกล้อง ใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวันได้ และ เก่งมากๆในเรื่องของการถ่ายในที่แสงน้อยครับ และ เลนส์อัลตร้าไวด์ ที่ถือว่ากว้างมากๆ โดยทาง realme ได้ใช้เซ็นเซอร์ ISOCELL JN1 ทำให้สามารถเก็บมุมมองได้กว้างมากถึง 150 องศาเลยครับ (เหมือนมีกล้อง Action Camera เลย) แต่จะมีข้อสังเกตในการซูมระยะไกล ตัวรุ่นนี้ เขาอาจจะทำได้ไม่ดีเท่ามือถือที่มี เลนส์ซูม ใส่มาในตัวเครื่องเลยเหมือนรุ่นอื่นๆ นะครับอาจต้องปรับตัวการถ่ายภาพของเราสักนิ๊ดหนึง และมี กล้องจุลทรรศน์ มาให้เล่นกันด้วย มีติดตัวไว้เล่นเป็น ฟีเจอร์ในการสร้างสรรค์ภาพแปลกใหม่ครับ จัดว่าแหวกมากๆ ไม่เสียเวลาไปรับชมภาพตัวอย่างกันครับ

Microscope 





Nightmode 






Ultra-Wide 






ส่วนการใช้กล้องหลังถ่ายวีดีโอ จะได้คุณภาพ วีดีโอดังนี้ครับ

  • ใช้ 720p จะใช้เฟรมเรทได้ที่ 30,60 FPS ใช้เลนส์ได้ครบทุกระยะ
  • ใช้ 1080p จะใช้เฟรมเรทได้ที่ 30,60 FPS ใช้เลนส์ได้ครบทุกระยะ
  • ใช้ 4k จะใช้เฟรมเรทได้ที่ 30 FPS , ใช้เลนส์ได้ครบทุกระยะ 60 FPS ใช้เลนส์ได้แค่เลนส์หลัก
  • ใช้ 8k จะใช้เฟรมเรทได้ที่ 24 FPS ใช้เลนส์ได้แค่เลนส์หลัก
  • ไม่สามารถต่อไมค์ข้างนอกเพื่อช่วยในการบันทึกเสียงได้นะครับ (แต่ใช้แอพพลิเคอื่นตัวอื่นๆจะใช้ได้ครับ)

Testing GPS


การเทส GPS โดยภาพรวมก็ถือว่ารับได้ไวไม่มีปัญหาเลยครับ

Speed test


ทดสอบแรกกับ 5G บน AIS ย่านปทุมวันครับ ทดสอบ Wifi 6E บน Router ที่ปล่อยสัญญาณ WIFI6 ได้โดยใช้แพคเกจเน็ต 1000/500 Mbps ครับผม

Testing Benchmark with antutu benchmark and 3D Mark



Testing Game and sound

ภาพรวมทดสอบเกมฮิต 3 เกม ROV, FreFire, PUBG M ปรับกราฟฟิคเต็มที่เล่นไม่อัดหน้าจอระหว่างการใช้งาน ก็พบว่า ความลื่นไหลพี่ให้เต็มๆ ไม่ต้องพู๊ดดด แต่มีร้อน ก็ยังขึ้นไวเหมือนยุคสมัยแอนดรอยด์ช่วงแรกๆ เพราะเป็นที่ Snapdragon 8 GEN 1 ทำการดึงพลังงานของ CPU มาใช้นั่นเอง (เป็นกันทุกเรือธงในปีนี้ครับไม่ต้องกลัว) แต่ก็มีการระบายความร้อน โดยการใช้ Vapor Cooling ที่ภายในมี Stainless Steel Vapor Chamber ช่วยระบายความร้อนครับทำให้ วางพักสักครู่ก็คายความร้อนพร้อมใช้งานต่อได้ทันทีครับ

และมี realme game space ที่อำนวยความสะดวกเช่น

  • “ดูสถานะการใช้งาน GPU,CPU”
  • “ใช้งานแอพอื่นๆไปพร้อมๆกันเช่นเข้า Facebook ระหว่างเล่นเกม “
  • “และปรับโหมดเป็น GT Mode เพิ่มประสิทธิภาพการเล่น” 
  • “ปรับการใช้งานทัชสกรีน” เป็นต้นครับ



Testing Charging and Battery

ด้านการชาร์จมือถือถ้าหากให้แรงสุดๆ ก็ใช้หัวชาร์จที่เขาแถมมาให้เลยครับชาร์จกันแบบ Draft Charge 65W เรียกได้ว่าไวมากๆ ผมกลับมาจากบ้านเสียบชาร์จแล้วไปอาบน้ำทานข้าวกลับมาก็พร้อมใช้งานแล้ว สุดยอดมากๆครับ เพราะผมก็ไม่เคยใช้การชาร์จไวที่ให้ขนาดนี้มาก่อนเลย


ส่วนแบตเตอร์รี่ ให้มา 5000 mAh หากใช้งานทั่วไปก็ถือว่าอึดนะครับใช้งานได้เกือบครึ่งวันเลย แต่ พอมาเล่นเกมด้วยความที่ใช้ Snapdragon 8 GEN 1 เวลาที่ใช้งานกราฟฟิคสูงๆ เช่นเล่นเกมจะพบว่า มีอาการแบตไหล เพราะมีการดึงพลังงานของ CPU มาใช้นั่นเอง (เป็นกันทุกเรือธงในปีนี้ครับไม่ต้องกลัว)

Multi-Screen Connect

ปิดท้ายด้วยการแชร์หน้าจอไปยังคอมพิวเตอร์ ใช้ในการสตรีมมิ่งเกม หรือ Presentation แบบไร้สายนั่นเองครับโดยมีโปรแกรมให้ติดตั้งตั้งบน PC ก่อนใช้งานครับ ศึกษาต่อ คลิกเลยครับ

-ส่วนความลื่นไหลการใช้งาน ถ้าเอามาเล่นเกมจะ ดีเลย์ 1-2 วินาทีครับ ตามระบบอินเตอร์เน็ตของตัวเครื่อง PC และมือถือที่อยู่ในวง Network เดียวกันครับ (เพราะฟังก์ชั่นนี้ใช้ Wifi ที่เป็น Network เดียวกันในการใช้งานครับ)

After Market Guide

ขอแนะนำอุปกรณ์เสริมที่ผมซื้อมาเปลี่ยนกับเครื่องผมนะครับในตอนนี้

  • ฟิล์ม ตอนนี้ใช้งานเป็น FOCUS Hydroplus Film แบบสั่งตัดพอดี ไม่เต็มจอครับ การใช้งานลื่นและสัมผัสดีมากครับ ราคาหากให้ร้านค้าทำให้อยู่แถวๆ 290 บาท (แล้วแต่ร้านค้าและโปรโมชั่นครับได้ราคาดีมาบอกบุญกันได้) คลิกเลย
  • หัวชาร์จ เนื่องจากการพก Draft Charge 65W ไม่สะดวกเพราะผมต้องมีอุปกรณ์ที่ชาร์จแบบ Type C PD ทำให้ต้องมาใช้ Adapter “ELOOP C5 PD/QC 65W GAN Fast Charger” ครับราคาอยู่ที่ 829 บาท จุดเด่นคือมี USB Type A แบบ Draft Charge 20w ได้ด้วยถึงไม่ไวเท่า 65W แต่มีขนาดที่เล็กพกพาง่ายและมีช่องชาร์จแบบ PD ครับ คลิกเลย
  • เคสผมใช้ KEYSION เป็นลายเหมือนแบรนด์ดัง สั่งจาก Lazada ครับ เป็นพรีออเดอร์ นานหน่อย 15 วัน โดยประมาณครับ คลิกเลย

สรุปภาพรวม

เป็นอย่างไรกันบ้างครับรีวิวโทรศัพท์แรกของผม realme gt 2 pro เป็นโทรศัพท์มือถือที่ผมใช้เวลารีวิวจากการใช้งาน 1 อาทิตย์ หยิบมาถ่ายรูป ใช้งานในชีวิตประจำวัน ภาพรวมก็ถือว่าทำได้ค่อนข้างดีมากเลยครับ อย่างที่ใช้ประจำๆ เช่นไปถ่ายภาพกลางคืน ตัวกล้องสามารถเก็บภาพในที่แสงน้อยได้อย่างดีมากๆเลย เล่นเกมก็แรงสะใจปรับกราฟฟิคได้สุดๆพร้อมภาพสวยๆจากหน้าจอแบบ Super Reality Display 2K ที่ปรับได้ถึง 120Hz สนนราคา 24,990 บาท (โดยราคาและโปรโมชั่นอาจปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลาครับ)

สนใจสามารถเข้าไปทดลองได้ที่ ผ่าน realme Brand Shop ทั่วประเทศ เลยนะครับ และสามารถสั่งซื้อออนไลน์ได้เช่นกัน คลิกเลยครับ 

ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะครับสำหรับการรีวิวมือถือในครั้งนี้ สวัสดีครับ

รีวิวอื่นๆของ realme คลิกเลยครับ



อัจ ลอฟท์เกม

อัจ ลอฟท์เกม ผู้ก่อตั้งเพจและเว็บไซต์ "ลอฟท์เกม - LOFTSGAME" บล็อกเกอร์ผู้สนใจและชื่นชอบเครื่องเล่นเกมคอนโซลเป็นชีวิตจิตใจ นอกจากนี้ยังชื่นชอบเทคโนโลยีต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ไอที แกตเจ็ต รวมไปถึงกีฬาอีสปอร์ต facebook twitter

แสดงความคิดเห็น

ใหม่กว่า เก่ากว่า