รีวิว : Review The All-New HONDA CBR500R (2019) บิ๊กไบค์เริ่มต้น 2 สูบเรียง 471 CC ในราคาที่ใครก็จับต้องได้!!


รีวิว : Review The All-New 
HONDA CBR500R (2019)
บิ๊กไบค์เริ่มต้น 2 สูบเรียง 471 CC 
ในราคาที่ใครก็จับต้องได้!!

สวัสดีครับ พบกับรีวิวจาก LOFTGAME อีกเช่นเคยนะครับ ครั้งนี้ขอฉีกแนวจากอุปกรณ์ไอที เกมมิ่งเกียร์ และเกม ด้วยการรีวิวรถจักรยานยนต์ "ขนาดใหญ่" หรือที่เรียกกันติดปากว่า "บิ๊กไบค์ - Bigbike" นั่นเองครับ ซึ่งบิ๊กไบค์ที่เราจะมารีวิวในวันนี้ คือเจ้า All-New CBR500R ซึ่งเปิดตัวกันไปตั้งแต่ต้นปี 2019 ที่ผ่านมาครับ



All-New CBR500R 2019 นั้นถือเป็นรถมอเตอร์ไซค์ Bigbike ขนาด CC เริ่มต้นครับ เหมาะสำหรับคนที่เริ่มต้นอยากลองขับบิ๊กไบค์ (คำจำกัดความของ "บิ๊กไบค์" ที่กำลังจะเป็นกฎหมายในบ้านเรา คือ รถจักรยานยนต์ที่มีปริมาตรกระบอกสูบตั้งแต่ 400 CC ขึ้นไป) ด้วยรูปลักษณ์ที่พลิกโฉมจากตัวเดิมไปพอสมควร ได้รับการออกแบบแฟริ่งที่คำนึงถึงหลักการทางอากาศพลศาสตร์ (Aerodynamics) มากขึ้น ทำให้รูปลักษณ์ของ CBR500R เวอร์ชั่น 2019 ให้ฟิลลิ่งความเป็น Sport Replica ดูโฉบเฉี่ยว ปราดเปรียว และคล่องตัวมากขึ้น ตัวนี้มีจุดเด่นอยู่ที่บริเวณแฟริ่งข้าง มีปีกด้วย ดูแล้วราวกับรถแข่งในระดับ MotoGP กันเลยทีเดียว



สเปกจากทางเว็บไซต์ A.P. Honda

เรามาดูด้านสเปกกันบ้างครับ เจ้า CBR500R 2019 มาพร้อมรหัสเครื่องยนต์ "PC62E" เป็นเครื่องยนต์แบบหัวฉีด PGM-FI ขนาด 471 ซีซี แบบ 2 สูบเรียง DOHC 6 เกียร์ ระบายความร้อนด้วยน้ำ คลัทช์มือแบบเปียกมาพร้อม Assist Slipper Clutch ที่ช่วยให้การเชนเกียร์เป็นไปอย่างนุ่มนวล ไม่มีเสียอาการเสียการทรงตัวหรือล้อล็อกเวลาเชนเกียร์ลงแต่อย่างใด เบรคหน้าเป็นแบบดิสก์เบรคขนาด 320 mm. พร้อมปั้มเบรคคาลิปเปอร์แบบลูกสูบคู่ของ NISSIN เจ้าเก่า ส่วนด้านหลังเป็นดิสก์เบรคขนาด 240 mm. คาลิปเปอร์แบบสูบเดี่ยวของ NISSIN เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ยังเสริมความปลอดภัยในการเบรคด้วยระบบเบรค ABS ที่ช่วยทำให้เบรคได้อย่างมั่นใจ และปลอดภัยมากขึ้น ล้อไม่ล็อกอย่างแน่นอน ล้อแมกซ์ทั้งสองข้างเป็นแบบอะลูมิเนียมอัลลอยหนา แข็งแรงทนทาน มีก้าน 12 ก้านให้ความสวยงาม แถมเช็ดทำความสะอาดง่ายมากๆ


โช๊คอัพหน้า เป็นแบบเทเลสโคปิคคู่ สามารถปรับระดับได้ ส่วนด้านหลังก็โช็คแบบ Mono โช๊คสามารถปรับ Pre Load ได้ แถมยังเป็นแบบ Prolink หรือกระเดื่องทดแรง เหมือนในรุ่นใหญ่ๆ อีกด้วย ยางที่ติดมากับรถจะเป็นยี่ห้อ Dunlop รุ่น Sportmax D222 ขนาดยางหน้า 120/70 ZR 17 M/C (58W) ยางหลัง 160/60 ZR 17 M/C (69W) แต่ในอนาคตผมมีแผนที่จะเปลี่ยนเป็น Pirelli Diablo Rosso II อย่างแน่นอน (ยางที่ชาวไบค์เกอร์นิยมกัน อิอิ)

ชุดไฟส่องสว่างของ CBR500R 2019 นั้น จะเป็นไฟแบบ LED ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้า ไฟเลี้ยวหน้า-หลัง ไฟท้าย หมดห่วงเรื่องอายุการใช้งาน เพราะหลอด LED นั้นมีความทนทานมากกว่าหลอดไส้แน่นอนครับ มีเพียงไฟส่องป้ายทะเบียนเท่านั้นที่ยังเป็นหลอดไฟแบบไส้อยู่ (Full LED ไม่จริงนี่หว่า อิอิ)


เรือนไมล์แบบ Full Digital LCD แสดงผลครบถ้วน ชัดเจน 
และสวยงาม ทั้งกลางวัน และยามค่ำคืน

มาดูกันที่เรือนไมล์ของ CBR500R กันบ้าง จะเป็นแบบ Full Digital กันเลยครับ (แบบเดียวกับใน CBR650R) แสดงผลด้วยหน้าจอ LCD ขนาดกำลังพอดี ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป อาจดูไม่เท่ไม่สปอร์ตเท่าไหร่ แต่ก็แสดงผลได้ครอบคลุมครบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นรอบเครื่องยนต์ ความเร็วขณะขับขี่ ความร้อนเครื่องยนต์ บอกตำแหน่งเกียร์ นาฬิกาบอกเวลา ค่าเฉลี่ยสิ้นเปลืองน้ำมัน วัดระยะทาง Trip A / Trip B ระยะทางทั้งหมด คือ ครบทุกอย่างเลยครับ ไม่มีกั๊ก นอกจากนี้ยามค่ำคืนยังมีไฟ LED Backlit สีน้ำเงินเข้มสวยงามเลยทีเดียว ด้านข้างจอมีไฟบอกสถานะต่างๆ ตั้งแต่ ไฟสูง ไฟเกียร์ว่าง ไฟเตือนน้ำมันเครื่อง ไฟระบบเบรก ABS และมาพร้อมไฟ Shift Light ช่วยเตือนให้เราควรเปลี่ยนเกียร์เมื่อรอบเครื่องยนต์ถึงระยะที่ตั้งไว้ ช่วยในการถนอมเครื่องยนต์ไม่ลากรอบจนเกินไปนั่นเองครับ นอกจากนี้บริเวณด้านล่างของเรือนไมล์ก็ยังมีไฟบอกตำแหน่งไฟเลี้ยวซ้าย-ขวาอีกด้วย


ไฟท้าย ไฟเลี้ยว เป็นไฟแบบ LED ทั้งหมด สว่างชัดเจนมาก 
ส่วนท่อไอเสีย สังเกตุว่าจะเป็นแบบ 2 รู ช่วยคายไอเสียได้ดีขึ้น 
แถมยังให้เสียงที่ทุ้มดุดัน เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว CBR500R 2019


สวิงอาร์มดูสวยขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้าที่เป็นแบบเหล็กกล่องธรรมดาๆนะ 
โซ่ขับเคลือนล้อหลังที่ติดรถมาเป็นแบบ O-Ring ของ D.I.D.


ความสูงจากพื้นถึงเบาะเพียง 789 มิลลิเมตรเท่านั้น ตัวผมเองสูง 171 เซนติเมตร รับรองว่าขึ้นคร่อมแล้ว สามารถเหยียบได้เต็มฝ่าเท้าเหลือๆ ไม่ต้องตะแคงรถ ไม่ต้องเขย่งครับ ส่วนน้ำหนักรถเปล่าๆ ไม่รวมน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 195 กิโลกรัม ถ้ารวมน้ำมันด้วยก็ราว ๆ 200 กิโลกร้ม ไม่หนักแต่ก็ไม่เบา 


ถังน้ำมันบรรจุได้ถึง 17.1 ลิตร เดินทางไกลได้อย่างสบายใจ อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเท่าที่ผมวัดได้จะอยู่ที่ประมาณ 29.8-30 กิโลเมตรต่อลิตรเท่านั้น ก็ถือว่าประหยัดน้ำมันพอสมควรครับ ได้ใจไปเลย

อีกหนึ่ง Option ที่ทางฮอนด้าใส่มาด้วยก็คือระบบ ESS หรือ Emergency Stop Signal เวลาที่เราเบรครถกระทันหันที่ความเร็วเกินกว่า 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ไฟเลี้ยวจะกระพริบพร้อมกันเป็นสัญญาณไฟฉุกเฉิน ช่วยให้รถที่ตามมามองเห็นได้อย่างชัดเจนขึ้น ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุชนท้ายได้อย่างดีทีเดียว ถือว่าเขาให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้ขับขี่มากๆ


ขนาด CBR500R เทียบกับ Click-i เพื่อนคู่กายตัวเก๋าของผม



สรุป

สำหรับใครที่มองหารถ Bigbike ที่ใช้ได้ในชีวิตประจำวัน ขี่ไปทำงานเท่ๆ ให้สาวเหลียวมอง และชอบรถสไตล์สปอร์ต ด้วยราคาค่าตัวที่ 219,740 บาท แถมโปรโมชั่นเด็ดๆ จากทาง Honda Bigwing ของแต่ละสาขา ผมกล้าพูดเลยว่า All-New Honda CBR500R 2019 นั้น ต้องเป็นตัวเลือกในอันดับต้นๆของการตัดสินใจซื้อแน่นอนครับ

จุดเด่น
  • เครื่องยนต์ขนาด 471 CC 2 สูบเรียง ให้นิยามความเป็น Bigbike ในระดับเริ่มต้นที่ดี
  • มี Assist Slipper Clutch ช่วยให้คลัชท์มีความนุ่มนวล เชนเกียร์ลงไม่เสียอาการ
  • เสียงท่อไอเสียเดิมๆ แน่น ทุ้ม ดังแบบมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร
  • ดีไซน์ตัวรถ แฟริ่งออกแบบมาคำนึงถึงหลักแอโรไดนามิค แถมโฉบเฉียวสวยงาม สไตล์สปอร์ต
  • ประหยัดน้ำมันดีมาก มีความคล่องตัวในการขับขี่ เหมาะแก่การขับขี่ในชีวิตประจำวันทั่วไป
จุดสังเกตุ 
  • ไฟ Full LED แต่ไฟส่องป้ายทะเบียนยังเป็นหลอดไส้อยู่นะ อิอิ
  • เบาะลื่นไปหน่อย เลื่อนก้นไปด้านหลัง แปบๆกลับมาข้างหน้า
  • ด้วยความที่เป็นแฮนด์จับโช็คหักเข้าหาตัวรถ เวลาขี่จะอยู่ในท่าหมอบ ขี่ใหม่ๆ ไม่คุ้นเคย อาจเกิดอาการปวดหลังและข้อมือได้
  • เวลาผ่อนคันเร่ง มีเสียง ตุ๊บๆ (ตด) ดังออกมาจากท่อไอเสีย แต่ก็เป็นเรื่องปกติของรถ 2 สูบ

สามารถสั่งจองรถได้ที่ โชว์รูม Honda Bigwing ทุกสาขา


อัจ ลอฟท์เกม

อัจ ลอฟท์เกม ผู้ก่อตั้งเพจและเว็บไซต์ "ลอฟท์เกม - LOFTSGAME" บล็อกเกอร์ผู้สนใจและชื่นชอบเครื่องเล่นเกมคอนโซลเป็นชีวิตจิตใจ นอกจากนี้ยังชื่นชอบเทคโนโลยีต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ไอที แกตเจ็ต รวมไปถึงกีฬาอีสปอร์ต facebook twitter

แสดงความคิดเห็น

ใหม่กว่า เก่ากว่า